ที่เที่ยวกาญจนบุรี ดินแดนแห่งประวัติศาสตร์และธรรมชาติที่งดงาม

กาญจนบุรี คือ แหล่งท่องเที่ยวที่มีความเป็นเอกลักษณ์ทั้งในเรื่องของประวัติศาสตร์และธรรมชาติที่งดงาม นอกจากจุดประวัติศาสตร์ที่สำคัญที่นี่ กาญจนบุรียังมีทัศนียภาพที่วิเศษและกิจกรรมนันทนาการต่าง ๆ ที่จะทำให้คุณหลงรักกับสถานที่เที่ยวกาญจนบุรีนี้ได้อย่างคาดไม่ถึง

ที่เที่ยวกาญจนบุรี ที่ทำให้ใจฟู เที่ยวได้ตลอดทั้งปี

1. สะพานข้ามแม่น้ำแคว

สะพานข้ามแม่น้ำแคว เป็นสัญลักษณ์หนึ่งที่สำคัญของจังหวัดกาญจนบุรี ปัจจุบันใช้เป็นทางสัญจรของรถไฟสายธนบุรี – น้ำตก หรือ ทางรถไฟสายมรณะในอดีต ได้รับการยกย่องให้เป็น “สัญลักษณ์แห่งสันติภาพ”

สะพานข้ามแม่น้ำแควเดิมสร้างขึ้นโดยแรงงานของเชลยศึกฝ่ายสัมพันธมิตร ภายใต้การควบคุมของกองทัพญี่ปุ่น การก่อสร้างใช้เวลาแล้วเสร็จเพียงหนึ่งปี ก่อนจะถูกระเบิดทิ้งทำลายจากกองบินสัมพันธมิตรจนสะพานช่วงกลางพังถล่มลงมา ต่อมาภายหลังสงครามโลกยุติลง รัฐบาลไทยได้ซื้อทางรถไฟนี้ต่อจากอังกฤษ หลังจากนี้ สร้างเป็นสะพานเหล็ก 2 ช่วง แทนของเดิม กับเปลี่ยนช่วงสะพานไม้ด้านปลายทางเป็นสะพานเหล็กแทนสะพานไม้

ห้ามพลาด! แวะถ่ายรูปสวยๆบนทางสะพานข้ามแม่น้ำแคว ที่มีระยะทาง 300 เมตร รับรองว่าได้รูปสวยถูกใจแน่นอน

• ตั้งอยู่ที่: ตำบลท่ามะขาม อำเภอเมืองกาญจนบุรี จังหวัดกาญจนบุรี 71000
• วันเปิดทำการ : ทุกวัน
• เวลาเปิดทำการ : 24 ชั่วโมง
• โทร : +66-2621-8701-9
• แผนที่สะพานข้ามแม่น้ำแคว

2.ทางรถไฟสายมรณะ

ทางรถไฟสายมรณะ ทางรถไฟสายนี้เริ่มต้นจากสถานีชุมทางหนองปลาดุก อำเภอบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี ผ่านจังหวัดกาญจนบุรีข้ามแม่น้ำแควใหญ่ โดยสะพานข้ามแม่น้ำแคว ไปทางทิศตะวันตกจนถึงด่านเจดีย์สามองค์ เพื่อให้ถึงปลายทางที่เมืองตาน-พยูซะยะ ประเทศพม่า ทิวทัศน์ตลอดเส้นทางนี้สวยงามมาก โดยเฉพาะบริเวณถ้ำกระแซ ที่เส้นทางรถไฟจะลัดเลาะไปตามเชิงผาเลียบไปกับลำน้ำแควน้อย

ทางรถไฟสายนี้สร้างขึ้นในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยใช้แรงงานเชลยศึกฝ่ายสัมพันธมิตรและกรรมกรชาวเอเชียที่กองทัพญี่ปุ่นเกณฑ์มาสร้าง เพื่อใช้เป็นเส้นทางยุทธศาสตร์ผ่านประเทศพม่า ปัจจุบันเส้นทางนี้ไปสุดปลายทางที่บ้านท่าเสาหรือสถานีน้ำตก ทางรถไฟสายนี้ถือเป็นอนุสรณ์ให้รำลึกถึงเหตุการณ์สงครามในครั้งนั้น

• ที่อยู่ : ตำบลลุ่มสุ่ม อำเภอไทรโยค จังหวัดกาญจนบุรี
• เปิดให้เข้าชม : 07.00-18.00 น.
• วันทำการ : ทุกวันเสาร์ อาทิตย์ และวันหยุดราชการ
• แผนที่

3.สะพานมอญ

สพานมอญ หรือเรียกว่า สะพานอุตตมานุสรณ์ เป็นสะพานไม้ที่ยาวที่สุดในประเทศไทย เป็นสะพานที่ข้ามแม่น้ำซองกาเลีย ที่ตำบลหนองลู อำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี สะพานนี้สร้างขึ้นโดยดำริของ หลวงพ่ออุตตมะ เจ้าอาวาสวัดวังก์วิเวการาม ในปี พ.ศ. 2529 จนถึง พ.ศ. 2530 โดยใช้แรงงานของชาวมอญ เป็นสะพานไม้ที่ใช้สัญจรไปมาของชาวมอญและชาวไทยที่อาศัยอยู่บริเวณนี้ ปัจจุบันเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งของจังหวัดกาญจนบุรี

โดยคนที่มาเดินเที่ยวชมธรรมชาติบนสะพานมอญต่าง จะสามารถสวมใส่ชุดชาวมอญที่มีสีสวย และสดใส หลังจากเที่ยวชมความสวมงามเสร็จ ทุกคนต่างๆจะสามารถไปทำบุญตักบาตรพระสงฆ์ตามประเพณีชาวมอญที่เชิงสะพานกัน แล้วคนยังได้ล่องเรือไปชมความงามสองฟากฝั่งแม่น้ำรันตี จะสบายใจและสนุก

• ที่อยู่: ซอย สะพานไม้ ตำบลหนองลู อำเภอสังขละบุรี กาญจนบุรี 71240
• เวลาทำการ : 24 ชั่วโมง
• แผนที่สะพานมอญ

4.อุทยานประวัติศาสตร์เมืองสิงห์

ขอบคุณภาพจากเฟสบุ๊ค อุทยานประวัติศาสตร์เมืองสิงห์

อุทยานประวัติศาสตร์เมืองสิงห์ เป็นหนึ่งในอุทยานประวัติศาสตร์ของประเทศไทย อุทยานประวัติศาสตร์เมืองสิงห์ แวดล้อมด้วยทิวเขาเป็นแนวยาวอยู่โดยรอบ ลักษณะผังเมืองเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า กำแพงเมืองก่อด้วยศิลาแลง มีประตูเข้าออก 4 ด้าน มีคูน้ำคันดินล้อมรอบ ภายในเมืองมีสระน้ำ 6 สระ

อุทยานประวัติศาสตร์เมืองสิงห์ ศิลปะการก่อสร้างอยู่ในยุคลพบุรีตอนปลาย ได้รับรูปแบบทางศาสนาและวัฒนธรรมมาจากประเทศกัมพูชา โดยสิ่งสำคัญที่พบในปราสาทแห่งนี้ คือ พระพุทธรูปนาคปรก พระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวรและนางปรัชญาปารมิตา และรูปพระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวรเปล่งรัศมีอีกองค์หนึ่ง รูปลักษณ์คล้ายกับที่พบในประเทศกัมพูชา ซึ่งปัจจุบันได้นำไปเก็บรักษาอยู่ที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร

• ตั้งที่อยู่: อุทยานประวัติศาสตร์ปราสาทเมืองสิงห์ ตำบลสิงห์ อำเภอไทรโยค กาญจนบุรี
• เปิดทุกวัน: 08:00-16:30(วันจันทร์ – วันอาทิตย์)
• โทร : 034 670 264
• แผนที่อุทยานประวัติศาสตร์เมืองสิงห์

5.อุทยานแห่งชาติไทรโยค

ขอบคุณภาพจากเฟสบุ๊ค อุทยานแห่งชาติไทรโยค – Sai Yok National Park

อุทยานแห่งชาติไทรโยค มีพื้นที่ครอบคลุมพื้นที่ป่าแม่น้ำน้อย ป่าวังใหญ่ และป่าห้วยเขย่ง ซึ่งพื้นที่ส่วนใหญ่ของ จะมีลักษณะที่เป็นเทือกเขาสลับซับซ้อน เพราะจากระดับน้ำทะเล เทือกเขาส่วนใหญ่นั้นจะทอดยาวจากทางด้านทิศเหนือลงมาทางทิศใต้ ทางด้านทิศตะวันตกเป็นเขตติดต่อกับประเทศพม่า

อุทยานแห่งชาติไทรโยค มีประวัติความเป็นมา อันยาวนาน ข้างในอุทยานยังมีสะพานของทางรถไฟสายมรณะและค่ายของกองทัพญี่ปุ่นในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง ตั้งแต่ครั้งสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ได้เสด็จน้ำตกไทรโยค และลงสงฆ์น้ำในธารน้ำอันเย็นฉ่ำภายใต้ร่มแห่งแมกไม้ของป่าใหญ่ จากนั้นน้ำตกไทรโยคจึงเป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวและผู้คนโดยทั่วไป ดั่งเพลง “เขมรไทรโยค” เป็นเพลงไทยอมตะบรรยายถึงความซาบซึ้งในธรรมชาติ และความสวยงามของน้ำตกไทรโยค ยังความประทับใจแก่ชาวไทยมาตราบเท่าทุกวันนี้

• ตั้งที่อยู่: หมู่ 7 ตำบลไทรโยค อำเภอไทรโยค จังหวัดกาญจนบุรี
• โทร : 034 686 024
• เปิดทุกวัน: 07:00-17:00(วันจันทร์ – วันอาทิตย์)
• อีเมล : Saiyok.np@hotmail.com
• แผนที่อุทยานแห่งชาติไทรโยค

6.วัดถ้ำพุหว้า

วัดถ้ำพุหว้า เป็นถ้ำลักษณะเป็นห้องโถงขนาดใหญ่ หน้าถ้ำมีปราสาทหินทรายรูปแบบศิลปะขอมโบราณประยุกต์ขนาดใหญ่สีน้ำตาลแดง มีลวดลายประณีตสวยงาม บรรยากาศโดยรอบมีลักษณะภูมิประเทศโอบล้อมด้วยภูเขาและป่าไม้ ร่มรื่น สะอาด สวยงาม เมื่อเข้าไปภายในถ้ำมีหินงอกหินย้อยงดงาม

ว่ากันว่าเดิมทีเดียววัดแห่งนี้มีถ้ำเป็นอุโบสถ โดยภายในถ้ำมีพระพุทธรูปปางสมาธิประดิษฐานเป็นพระประธาน รวมทั้งเป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุที่อัญเชิญมาจากประเทศเมียนมา ให้นักท่องเที่ยวได้สักการะบูชาด้วยเช่นกัน ต่อมาได้รับการบูรณะครั้งใหญ่ด้วยการสร้างอุโบสถหินทรายครอบตัวถ้ำเอาไว้

• ตั้งที่อยู่: XCP3+54M ตำบลหนองหญ้า อำเภอเมืองกาญจนบุรี กาญจนบุรี 71000 ไทย
• เปิดทุกวัน: 08:00-18:00(วันจันทร์ – วันอาทิตย์)
• แผนที่วัดถ้ำพุหว้า

7.วัดถ้ำเสือ

วัดถ้ำเสือ เป็นที่รู้จักสำหรับทิวทัศน์ที่ล้อมรอบด้วยทุ่งนาและประดิษฐานพระพุทธรูปขนาดใหญ่ หลวงพ่อชินประทานพร ภายในวัดประกอบด้วยอาคารและเจดีย์ สถาปัตยกรรมไทย, จีน, ญี่ปุ่น และผสมผสาน เดิมเป็นสำนักสงฆ์ขนาดเล็กในบริเวณถ้ำเสือด้านล่างริมเนินเขา ต่อมาชาวบ้าน ร่วมกันสร้างและบูรณะ จนกลายเป็นวัดที่ใหญ่โต และมีความวิจิตรงดงาม

ด้านหน้าวัดเป็นแม่น้ำแม่กลอง และล้อมรอบด้วยท้องทุ่งนา ส่วนด้านข้างติดกับองค์พระเจดีย์สถาปัตยกรรมจีน ในวัดถ้ำเสือ มี”หลวงพ่อชินประทานพร”พระอิริยาบถนั่งขัดสมาธิปางประทานพร รอบองค์พระมีเรือนแก้วครอบลักษณะเดียวกับพระพุทธชินราช องค์พระประดับกระเบื้องสีทอง ปัจจุบันเป็นหนึ่งในพระพุทธรูปที่สูงที่สุดในประเทศไทย

• ตั้งที่อยู่: XJ34+H36 ตำบลม่วงชุม อำเภอท่าม่วง กาญจนบุรี
• เปิดทุกวัน: 08:30-17:00(วันจันทร์ – วันอาทิตย์)
• แผนที่วัดถ้ำเสือ

8.วัดหินแท่นลำภาชี

ขอบคุณภาพจากเฟสบุ๊ค วัดหินแท่นลำภาชี จ.กาญจนบุรี

วัดหินแท่นลำภาชี เป็นวัดที่เลื่องชื่ออุโบสถที่สวยที่สุดในจังหวัดกาญจนบุรี ที่มีสมเด็จพระพุฒาจารย์ โต พรหมรังสี องค์ใหญ่ประดิษฐานอยู่หน้าอุโบสถ โดยอุโบสถที่สวยงามแห่งนี้เรียกว่า โบสถ์สำเภาแก้วร้อยล้าน ถูกสร้างขนาบข้างด้วยเรืออนันตนาคราชลักษ

วัดหินแท่นลำภาชี ถูกสันนิษฐานว่าตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2481 ปัจจุบันมีพระครูถาวรกาญจนธรรม หรือหลวงพ่อสมคิด เป็นเจ้าอาวาส โดยแนวคิดในการสร้างโบสถ์แก้วประดิษฐานอยู่บนเรือหงส์นั้น

• ตั้งที่อยู่: บ้านหินแท่น ตำบลหนองไผ่ อำเภอด่านมะขามเตี้ย จังหวัดกาญจนบุรี
• เปิดทุกวัน: 08:30-17:00(วันจันทร์ – วันอาทิตย์)
• โทร : 092 625 6394
• แผนที่วัดหินแท่นลำภาชี

9.น้ำตกเอราวัณ

น้ำตกเอราวัณ หรือเรียกว่า น้ำตกสะด่องม่องล่าย อันเป็นชื่อลำห้วยม่องลายที่เป็นต้นน้ำ ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติเอราวัณ เป็นน้ำตกที่สวยงามและมีชื่อเสียงแห่งหนึ่งของจังหวัด มีทั้งหมด 7 ชั้น แต่ละชั้นมีความสวยงามแตกต่างกันไป

ลักษณะน้ำตกชั้นที่ 7 ของที่นี่มีลักษณะคล้ายหัวช้างเอราวัณ 3 เศียร จึงกลายเป็นที่มาของชื่อ มาเที่ยวที่นี่ คุณสามารถเลือกกิจกรรมต่างๆได้ เช่น เดินศึกษาธรรมชาติ ดูนกปั่นจักรยาน และเล่นน้ำตก เป็นต้น จะให้คุณรู้สึกว่า สนุกสนานมาก สิ่งที่สำคัณที่สุดคือ คุณจะได้รับความรู้และความเพลิดเพลินในการชื่นชมธรรมชาติที่สวยงามเป็นอย่างยิ่ง

• ตั้งที่อยู่: ในเขตอุทยานแห่งชาติเอราวัณ ตำบลท่ากระดาน อำเภอศรีสวัสดิ์ จังหวัดกาญจนบุรี
• เปิดทุกวัน: 07:00-16:30(วันจันทร์ – วันอาทิตย์)
• ค่าเข้าชม

	ผู้ใหญ่	เด็ก
ชาวไทย	100 บาท	50 บาท
ชาวต่างชาติ	300 บาท	200 บาท

• แผนที่ น้ำตกเอราวัณ

10.ร็อควัลเล่ย์ฮอทสปริงแอนด์ฟิชสปา

ขอบคุณภาพจากเฟสบุ๊ค Rock Valley Hotspring & Fish Spa

ร็อควัลเล่ย์ฮอทสปริงแอนด์ฟิชสปา บ่อออนเซนเอ้าดอร์ริมแม่น้ำแควซึ่งเป็นบ่อน้ำแร่ร้อนเอ้าดอร์อันดับต้นๆของประเทศไทย ได้นำสมุนไพรไทยต่างๆที่มีชื่อเสียงมาศึกษาและหาคุณประโยชน์เพื่อให้ลูกค้าชาวต่างชาติและชาวไทยได้รับประโยชน์สูงสุด

มาถึงร็อควัลเล่ย์ฮอทสปริงแอนด์ฟิชสปา เวลาจะช่างผ่านไปเร็ว เพราะว่าเราจะสามารถการได้ตัดขาดจากโลกภายนอกในช่วงเวลาหนึ่ง ร่ำรารรรมชาติที่นี่ ทำให้เรามีสมาธิอยู่กับตัวเองมากขึ้น รู้สึกถึงความวุ่นวายที่หายไป ถือเป็นการพักผ่อนอย่างแท้จริง

• ตั้งที่อยู่: River Kwai Village Hotel ตำบลท่าเสา อำเภอไทรโยค กาญจนบุรี
• โทร: 081 922 4661
• เปิดทุกวัน: 09:00-17:00(วันศุกร์ – วันอาทิตย์)
• แผนที่ร็อควัลเล่ย์ฮอทสปริงแอนด์ฟิชสปา

11.ถนนปากแพรก

ถนนปากแพรก เป็นถนนเก่าเล่าเรื่องมองกาญจนบุรี คำว่าปากแพรกเพี้ยนมาจากภาษาจีนว่าปากเผ็ก ซึ่งแปลว่าทางแยก อาคารบ้านเรือนที่ตั้งเรียงรายตามแนวกำแพงเมืองทอดยาวขนานไปกับแม่น้ำแควใหญ่ รูปแบบการก่อสร้างเป็นเอกลักษณ์ บ่งบอกถึงประวัติศาสตร์ท้องถิ่นที่เชื่อมโยงกับการก่อตั้งเมืองยุคต้นกรุงรัตนโกสินทร์และประวัติศาสตร์สากลที่ผูกพันใกล้ชิดกับสงครามโลกครั้งที่ ๒ การกำเนิดของย่านการค้าเก่าแก่ที่เกี่ยวเนื่องกับแม่น้ำสายหลักของเมืองกาญจนบุรี

ในฐานะเป็นชุมชนเก่าแก่ จุดเริ่มต้นของถนนเส้นนี้เริ่มที่ประตูเมืองเก่าซึ่งอยู่มาถึงปัจจุบัน มีการสร้างอาคารบ้านเรือน เรียบ เรียง ไปตามกำแพงด้านหน้าเมืองกาญจนบุรี ไปจนถึงบริเวณวัดเทวสังฆาราม ส่วนอีกปากทางถนนนั้น ไปเชื่อมเส้นทาง ผ่านหน้าจวนผู้ว่า ศาลหลักเมือง มุ่งหน้าออกสู่ถนนแสงชูโต ตลาดโต้รุ่ง ตลาดโต้รุ่งแห่งนี้ ได้หล่อเลี้ยงปากท้อง ชาวไทย ชาวต่างชาติและผู้คนในพื้นที่มาอย่างยาวนาน

ในทุกวันเสาร์บริเวณชุมชนปากแพรกและถนนสายปากแพรก จะมีการจัดกิจกรรมถนนคนเดินและมีสินค้าจำหน่ายนักท่องเที่ยวและประชาชน

• ที่อยู่: 119 Pakprak Rd, Ban Tai, Mueang Kanchanaburi District, Kanchanaburi 71000
• แผนที่ถนนคนเดินปากแพรก

12.ด่านเจดีย์สามองค์

ด่านเจดีย์สามองค์ เป็นช่องเขาในทิวเขาตะนาวศรี ตั้งอยู่บนพรมแดนประเทศไทยและประเทศพม่า ช่องเขานี้ได้เคยเป็นเส้นทางสัญจรทางบกเข้าสู่ทางตะวันตกของประเทศไทยมาตั้งแต่ครั้งอดีตกาล

ด่านเจดีย์สามองค์ เป็นเส้นทางหลักของการเดินทัพของพม่า โดยมีบางครั้งที่กองทัพอยุธยาได้ใช้เป็นเส้นทางรุกรานพม่าเช่นกันในอดีต ช่องเขาดังกล่าวได้ชื่อตามกองเจดีย์ขนาดเล็กสามองค์ ซึ่งอาจถูกสร้างขึ้นในช่วงปลายสมัยอยุธยาเพื่อเป็นสัญลักษณ์ของสันติภาพ

• ตั้งที่อยู่:ตำบลหนองลู อำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี
• เปิดทุกวัน: 07:00-19:00(วันจันทร์ – วันอาทิตย์)
• แผนที่ด่านเจดีย์สามองค์

13.สุสานทหารสัมพันธมิตรดอนรัก

สุสานทหารสัมพันธมิตรดอนรัก หรือเรียกว่า “สุสานทหารสหประชาชาติ” หรือ “ป่าช้าอังกฤษ” เป็นสุสานขนาดใหญ่บนพื้นที่ 17 ไร่ บรรจุศพเชลยศึกที่เสียชีวิตระหว่างการสร้างทางรถไฟสายมรณะถึง 6,982 หลุม โดยเชลยศึก 300 คนเสียชีวิตด้วยอหิวาตกโรคและฝังไว้ที่ค่ายนิเกะ (ประมาณ 15 กิโลเมตร ก่อนถึงด่านเจดีย์สามองค์)

ส่วนที่เหลือได้จากหลุมฝังศพเชลยศึกตามค่ายต่าง ๆ และยังมีสุสานช่องไก่ บรรยากาศในสุสานเงียบสงบและร่มรื่น พื้นที่ภายในได้รับการตกแต่งไว้อย่างเป็นระเบียบสวยงาม เหนือหลุมฝังศพทุกหลุมมีแผ่นทองเหลืองจารึก ชื่อ อายุ และประเทศของผู้เสียชีวิต บรรทัดสุดท้ายเป็นคำไว้อาลัยที่โศกเศร้า

• อยู่ที่: 284/66 ถ. แสงชูโต ตำบลบ้านใต้ อำเภอเมืองกาญจนบุรี กาญจนบุรี
• เปิดทุกวัน: 08:00-17:00(วันจันทร์ – วันอาทิตย์)
• แผนที่สุสานทหารสัมพันธมิตรดอนรัก

14.พิพิธภัณฑ์ทางรถไฟไทย-พม่า

พิพิธภัณฑ์ทางรถไฟไทย-พม่า จัดแสดงเรื่องราวเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ทางรถไฟสายไทย-พม่า เริ่มตั้งแต่การเข้ามาของญี่ปุ่น การออกแบบและการสร้างทางรถไฟ สภาพภูมิศาสตร์ของทางรถไฟ สภาพชีวิตในค่ายเชลยศึก ด้านการแพทย์

พิพิธภัณฑ์ทางรถไฟไทย-พม่าเป็นพิพิธภัณฑ์ที่อยู่ติดกับสุสานสัมพันธมิตรดอนรัก(หรือ เรียกว่า นามสุสานสงครามกาญจนบุรี) โดยถือเป็นสถานที่ที่รวบรวมเรื่องราว ประกอบด้วยอาคาร 2 ชั้น โดยมีเรื่องราวการจัดแสดงทั้งหมด 9 ส่วน(นำเรือง การออกแบบและการก่อสร้าง ภูมิศาสตร์ทางรถไฟ ชีวิตในค่าย การเยียวยารักษา ต้นทุน ทางรถไฟเมื่อเปิดใช้งาน ระเบิดกัมมันตภาพรังสีและการทำลายรางรถไฟ และภายหลังสงคราม)

โดยถือเป็นสถานที่ที่รวบรวมเรื่องราว ประวัติศาสตร์การสร้างทางรถไฟสายไทย- พม่า หรือที่รู้จักกันดีว่าทางรถไฟ สายมรณะไว้อย่างละเอียดยิบ ตั้งแต่การเดินทัพเข้ามาของ กองทัพญี่ปุ่น การออกแบบและการสร้างทางรถไฟ สภาพภูมิศาสตร์ของทางรถไฟ สภาพชีวิตอันน่าหดหู่ ภายในค่ายเชลยศึก เรื่องราวด้านการแพทย์ สงคราม ปฏิบัติการทางรถไฟ การทิ้งระเบิดและการทำลายทางรถไฟ ไปจนถึงเหตุการณ์ภายหลังจากที่สงครามยุติลง

• ที่อยู่: 73 ถนน เจ้าขุนเณร ตำบลบ้านเหนือ อำเภอเมืองกาญจนบุรี กาญจนบุรี 71000 ไทย
• เปิดทุกวัน: 09:00-16:00(วันจันทร์ – วันอาทิตย์)
• โทร: 034 512 721
• ค่าเข้าชมพิพิธภัณฑ์ทางรถไฟไทย-พม่า: ผู้ใหญ่ 80 บาท/เด็ก 40 บาท
• แผนที่พิพิธภัณฑ์ทางรถไฟไทย-พม่า

15.พิพิธภัณฑ์สงครามอักษะและเชลยศึก

พิพิธภัณฑ์สงครามอักษะและเชลยศึก หรือว่า พิพิธภัณฑ์สงครามวัดใต้ ตัวอาคารสร้างเป็นกระท่อมเลียนแบบค่ายเชลยศึก สมัยสงครามโลกครั้งที่สอง เป็นที่เก็บรวบรวมภาพวาด ภาพถ่าย แสดงถึงชีวิตความเป็นอยู่ของเชลยศึกสมัยสงครามโลกครั้งที่สอง นอกจากนั้นยังมีเครื่องมือ เครื่องใช้ของทหารเชลยศึกสมัยสงครามโลกครั้งที่สอง เช่น อาวุธสงคราม หมวก มีด ช้อน ส้อม เป็นต้น แม้เหตุการณ์อันเจ็บปวดในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ได้ผ่านพ้นไปแล้ว แต่ทุกวันนี้ร่องรอยของความสูญเสียครั้งนั้น ยังคงจารึกอยู่ในหัวใจของผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องอย่างยากจะลบเลือนได้

ดังนั้น พิพิธภัณฑ์สงครามอักษะและเชลยศึก จัดตั้งขึ้นเพื่อเป็นเกียรติแก่เชลยศึกที่เสียชีวิตเพราะการก่อสร้างทางรถไฟสายมรณะกว่า 16,000 คน ตั้งอยู่ในวัดไชยชุมพลชนะสงคราม (วัดใต้) ตำบลบ้านใต้

พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ มีตัวอาคารจัดแสดงเป็น 2 อาคาร อาคารหลังแรก เป็นอาคารจำลองที่พักของเชลยศึก สร้างขึ้นด้วยไม้ไผ่หลังคามุงจาก ผนังทำเป็นฝาไม้รวกขัดแตะ ด้านในยกพื้นขึ้น กึ่งหนึ่งแล้วปูด้วยฟากไม้ไผ่ซึ่งใช้เป็นที่นอนสำหรับเชลย ส่วนตามผนังและเสาของอาคารจัดแสดง ภาพถ่ายต่าง ๆ ทั้งภาพข่าวจากหนังสือพิมพ์ไทยและต่างประเทศ ภาพวาดสีน้ำโดยอดีตเชลยศึก ภาพสเก็ตช์เกี่ยวกับการสร้างสะพานและสภาพของเชลยศึกโดยอดีตหมอศัลยกรรมของกองทัพออสเตรเลีย จดหมายของเชลยศึก โปสต์การ์ดของนายทหารญี่ปุ่นที่ลูกหลานนำมามอบให้ ส่วนอาคาร

หลังที่สองนั้นเป็นอาคารก่ออิฐถือปูนชั้นเดียว จัดแสดงเครื่องใช้ไม้สอยของเชลยศึก กองทัพญี่ปุ่น อาทิเช่น หมวกทหาร ปืน ลูกระเบิด ค้อนตอกหมุดรางรถไฟ ขวดเหล้าสาเกญี่ปุ่น เป็นต้น ผนังด้านข้างจัดแสดงภาพถ่ายเชลยศึกที่รอดชีวิตจากสงคราม

• ตั้งที่อยู่: 2G8J+H6G ตำบลบ้านใต้ อำเภอเมืองกาญจนบุรี กาญจนบุรี 71000 ไทย
• เปิดทุกวัน: 08:30-16:30(วันจันทร์ – วันอาทิตย์)
• ค่าเข้าชมพิพิธภัณฑ์สงครามอักษะและเชลยศึก: ชาวไทย 10 บาท /ชาวต่าชาติ 30 บาท
• แผนที่พิพิธภัณฑ์สงครามอักษะและเชลยศึก

16.น้ำตกไทรโยคน้อย

น้ำตกไทรโยคน้อย มีชื่ออีกว่า น้ำตกเขาพัง ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติ มาเที่ยวที่นี่ จะการเดินทางสะดวก เป็นน้ำตกชั้นเดียวขนาดไม่ใหญ่มากนัก น้ำตกจากผาไหลกระโจนลงมาด้านล่างมีแอ่งสำหรับเล่นน้ำ อยู่ที่นี่ บริเวณน้ำตกมีสภาพธรรมชาติที่สวยงามร่มรื่น โดยเฉพาะช่วงฤดูฝนประมาณเดือนกรกฎาคมถึงตุลาคม จะมีน้ำมาก แล้วบริเวณด้านหน้าและถนนฝั่งตรงข้ามน้ำตกจะมีร้านค้า ร้านอาหาร ของฝากหลายร้าน

พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเคยเสด็จประพาสต้นน้ำตกแห่งนี้ เมื่อประมาณปี พ.ศ. 2431 นอกจากจะได้ชมน้ำตกอันสวยงามแล้ว ยังมีหัวรถจักรไอน้ำสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 มาตั้งแสดงไว้เพื่อรำลึกถึงการสร้างทางรถไฟสายมรณะ ที่สร้างผ่านหน้าบริเวณน้ำตกเข้าสู่ประเทศพม่าด้วย

• ที่อยู่: ริมถนนเส้น ทองผาภูมิ – สังขละ อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี อยู่ห่างตัวเมืองประมาณ 60 กม
• เปิดทุกวัน: 08:00-18:00(วันจันทร์ – วันอาทิตย์)
• แผนที่น้ำตกไทรโยคน้อย

17.น้ำตกจ๊อกกระดิ่น

น้ำตกจ็อกกระดิ่น เป็นภาษาพม่า เป็นชื่อเพี้ยนมาจากคำเดิมว่า “ก๊อกกระด่าน” จ๊อก หรือ ก๊อก หมายถึง หิน และ กระดิ่น หรือกระด่าน หมายถึง น้ำตก มีความหมายรวมกันว่า เป็นน้ำตกที่ไหลผ่านซอกหินผา มีแหล่งกำเนิดเป็นน้ำที่ผุดขึ้นจากภูเขาอีปู่

น้ำตกลางหุบเขา มีความสวยงามมาก มีน้ำตลอดทั้งปี มีเพียงชั้นเดียว ตั้งอยู่ในพื้นที่เหมืองแร่ทังสเตนไหลผ่านหมู่บ้าน มีความสูงจากระดับน้ำทะเลปานกลาง 727 เมตร มีระยะทางยาวประมาณ 5 กิโลเมตร บุคคลที่ได้เล่นน้ำตกแห่งนี้ เปรียบเหมือนได้อาบน้ำแร่ไปในตัว แอ่งน้ำตกมีน้ำเป็นสีฟ้าครามสวยงาม ความลึกสุดตรงกลางแอ่งน้ำ 3-4 เมตร

• ตั้งที่อยู่: M9MH+QG5 ตำบลปิล็อก อำเภอทองผาภูมิ กาญจนบุรี
• เปิดทุกวัน: 08:00-17:00(วันจันทร์ – วันอาทิตย์)
• แผนที่น้ำตกจ็อกกระดิ่น

18.ต้นจามจุรียักษ์

ต้นจามจุรียักษ์ ต้อง10 คนโอบ อายุมากกว่า 100 + ปี รัศมีทรงพุ่มของต้นประมาณ 25.87 เมตร มีเส้นผ่านศูนย์กลาง ของร่มเงายาวประมาณ 51.75 เมตร สามารถวัดความสูงของต้นจากพื้นดินสู่ยอดได้ประมาณ 20 เมตร และความใหญ่โตที่มาพร้อมกับการแผ่กิ่งก้านสาขาสวยงามเกินคำบรรยายนี่เอง

ต้นจามจุรียักษ์ ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวแทบทุกคน เมื่อเดินทางมาเยือนจังหวัดกาญจนบุรีแล้ว ต้องแวะเวียนไปถ่ายภาพเก็บไว้เป็นที่ระลึกคู่กับจามจุรีต้นนี้ราวกับ ที่นี่อีกสัญลักษณ์หนึ่งของเมืองกาญจน์ไปแล้วโดยปริยาย ดังนั้น หากมาเที่ยวที่กาญจนบุรี ต้องไปเช็คอินต้นจามจุรียักษ์แน่นอน

• ที่อยู่: ตำบล เกาะสำโรง อำเภอเมืองกาญจนบุรี กาญจนบุรี
• เปิดทุกวัน: 08:00-17:00(วันจันทร์ – วันอาทิตย์)
• แผนที่ต้นจามจุรียักษ์

19.น้ำตกห้วยแม่ขมิ้น

น้ำตกห้วยแม่ขมิ้น เป็นน้ำตกที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศไทย มีจำนวน 7 ชั้น ตั้งแต่ชั้นแรกถึงชั้น 4 มีระยะทางเพียง 300-750 เมตร ตั้งแต่ชั้น 5 ขึ้นไปจนถึงชั้นบนสุดของน้ำตกมีระยะทางมากกว่า 1 กิโลเมตร แต่ละชั้นเลยมีความสวยงามในแบบที่ต่างกันไป และที่นี่ยังได้ชื่อว่า เป็นน้ำตกที่สวยที่สุดในกาญจนบุรีอีกด้วย มาเที่ยวที่กาญจนบุรี จะต้องมาชมน้ำตกห้วยแม่ขมิ้นแน่นอน

น้ำตกห้วยแม่ขมิ้น แต่ละชั้นมีชื่อเรียกแตกต่างกันไป ชั้นที่ 1 ดงว่าน ชั้นที่ 2 ม่านขมิ้น ชั้นที่ 3 วังหน้าผา ชั้นที่ 4 ฉัตรแก้ว ชั้นที่ 5ไหลจนหลง ชั้นที่ 6 ดงผีเสื้อ ชั้นที่ 7 ร่มเกล้า สิ่งที่สำคัญที่สุด คือ สามารถกางเต็นท์พักแรมในลานกางเต็นท์น้ำตกชั้น 4 ได้ จะให้ความรู้สึกว่า สนุกสนานมาก

• ที่อยู่: อุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ ต.ท่ากระดาน อ.ศรีสวัสดิ์ จ.กาญจนบุรี
• เปิดทุกวัน: 06:30-17:00(วันจันทร์ – วันอาทิตย์)
• ค่าเข้าชมน้ำตกห้วยแม่ขมิ้น:

	ผู้ใหญ่	เด็ก
ชาวไทย	100 บาท	50 บาท
ชาวต่างชาติ	300 บาท	200 บาท

•  แผนที่น้ำตกห้วยแม่ขมิ้น

20.จุดชมวิวป้อมปี่

จุดชมวิวป้อมปี่ อยู่ริมอ่างเก็บน้ำเขื่อนวชิราลงกรณ ห่างจากที่ทำการอุทยานแห่งชาติเขาแหลม ประมาณ 2 กิโลเมตร ลักษณะทั่วไป เป็นพื้นที่อยู่ริมอ่างเก็บน้ำเขื่อนวชิราลงกรณ สามารถมองเห็นทัศนียภาพที่สวยงามเหนืออ่างเก็บน้ำเขื่อนวชิราลงกรณ ทั้งยังเป็นจุดชมวิวที่สามารถชมความงามของพระอาทิตย์ตกในยามเย็นได้อีกด้วย

จุดชมวิวป้อมปี่ มีทิวทัศน์โดยรอบเป็นทะเลสาบที่ถูกรอบลอบด้วยภูเขา บรรยากาศดีมากๆ โดยเฉพาะในช่วงฤดูหนาวกับฤดูฝน จะมีไอหมอกลอยอยู่เหนือผิวน้ำ อยู่ที่นี่ สามารถกางเต็นท์พักแรม และทำกิจกรรมต่างๆได้ เช่น เล่นน้ำ ดูนก ตกปลา ชมพระอาทิตย์ตก หรือจะพายเรือ นั่งเรือกินลมชมธรรมชาติของอ่างเก็บน้ำ จะสบายใจมาก

• ที่อยู่: 2HCM+HF2 ตำบลปรังเผล อำเภอสังขละบุรี กาญจนบุรี
• เปิดทุกวัน: 08:00-18:30(วันจันทร์ – วันอาทิตย์)
• ค่าเข้าชมน้ำตกห้วยแม่ขมิ้น:

	ผู้ใหญ่	เด็ก
ชาวไทย	40 บาท	20 บาท
ชาวต่างชาติ	200 บาท	100 บาท

•  แผนที่จุดชมวิวป้อมปี่

21.เขาช้างเผือก

ขอบคุณภาพจากเฟสบุ๊ค อุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ – Thongphaphum National Park

เขาช้างเผือก ที่เที่ยวสุดท้าทาย ที่เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวขาลุย ตั้งอยู่ที่ อุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ กาญจนบุรีนี่เองค่ะ เขาช้างเผือกจะเปิดให้นักท่องเที่ยวได้ผจญภัยกันช่วงเดือนตุลาคม-กุมภาพันธ์ และต้องติดต่อรับคิวในการขึ้นเขากับเจ้าหน้าที่อุทยานฯ เท่านั้น ไม่สามารถเดินทางไปเที่ยวได้ด้วยตัวเองค่ะ

เส้นทางการเดินป่านั้นมีระยะทางประมาณ 8 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินเท้าประมาณ 6 ชั่วโมง โดยต้องพักค้างแรม กางเต็นท์บนยอดเขาหนึ่งคืน ซึ่งจะมีบริการลูกหาบให้อีกด้วย ใครที่อยากไปสัมผัสธรรมชาติอย่างใกล้ชิด บอกเลยว่าต้องมาพิชิตเขาช้างเผือกสักครั้ง

• ที่อยู่ : อุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ ตำบลปิล๊อก อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี
• เปิดให้เข้าชม : เดือนตุลาคม-กุมภาพันธ์ ของทุกปี โดยสามารถติดต่อที่อุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ
• โทร : อุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ 0-3451-0979
• แผนที่เขาช้างเผือก

22.ลำคลองงู

ขอบคุณภาพจากเฟสบุ๊ค อุทยานแห่งชาติลำคลองงู – Lam Khlong Ngu National Park

ลำคลองงู ตั้งอยู่ที่ อุทยานแห่งชาติลำคลองงู ในจังหวัดกาญจนบุรี ถือเป็นอีกสถานที่ท่องเที่ยวสุด Unseen ที่มีความงดงาม และมีกิจกรรมท้าทายความสามารถ ทั้งการเดินถ้ำชมเสาหินที่สูงที่สุดในโลก และเล่นเย็นฉ่ำกับน้ำตกท่ามกลางธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์มากๆ ค่ะ

บอกเลยว่าสายแอดเวนเจอร์ต้องปักหมุดไปเที่ยวที่นี่ให้ได้สักครั้ง รับรองว่าจะหลงรักการผจญภัยในที่นี่มากๆ ค่ะ สำหรับอุทยานฯ เปิดให้เที่ยวปีละ 2 เดือนเท่านั้น คือเดือนมีนาคมและเมษายน แถมจองยากมากอีกด้วย เพราะฉะนั้นรอจองคิวไว้ได้เลยค่ะ

• ที่อยู่ : อุทยานแห่งชาติลำคลองงู อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี
• เปิดให้เข้าชม : 08.00-16.00 น.
• โทร : อุทยานแห่งชาติลำคลองงู 08-4913-2381
• แผนที่ลำคลองงู

23.เขื่อนวชิราลงกรณ์

เขื่อนวชิราลงกรณ์ เป็นที่เที่ยวสวยอีกแห่งของอำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรีค่ะ มีความสวยงามของวิวทะเลสาบ และเงียบสงบ นักท่องเที่ยวสามารถขับรถขึ้นไปชมวิวบริเวณสันเขื่อนได้อีกด้วย ซึ่งเราจะได้เห็นภาพของอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ มีน้ำสีเขียวมรกตอันสวยงามค่ะ

ที่นี่มีกิจกรรมต่างๆ ให้ทำมากมายค่ะทั้ง ชมวิวบริเวณริมสันเขื่อน เล่นน้ำล่องแพ ดูนก ตกปลา หรือไปชมวิวที่ จุดชมวิวป้อมปี่

• ที่อยู่ : เขื่อนวชิราลงกรณ์ หมู่ 1 ตำบลท่าขนุน อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี
• เปิดให้เข้าชม : 06.00-18.00 น.
• โทร : –
• แผนที่เขื่อนวชิราลงกรณ์